ฉันเอง..เที่ยวภูกระดึง

วันอังคารที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2553

บอลโลกทีมอาร์เจนติน่า

ทีมอาร์เจนติน่า



ดาวยิงที่สุดยอด



นักเตะทีมอาร์เจนติน่า






กองน่าที่ยอดเยี่ยม



ก่อตั้ง : ปี 1893
ผ่านเข้าฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย : 13 ครั้ง (1930, 1934, 1958, 1962, 1966, 1974,1978, 1982, )
ผลงานสูงสุดในฟุตบอลโลก : แชมป์โลก 2 สมัย (1978, 1986), รองแชมป์โลก 2 สมัย (1930, 1990)
เกียรติประวัติระดับทวีป : แชมป์โคปา อเมริกา 14 สมัย (1921, 1925, 1927, 1927, 1937, 1941, 1945, 1946, 1947, 1955, 1957, 1959, 1991, 1993), แชมป์แพนอเมริกา 6 สมัย (1951, 1955, 1959, 1971, 1995, 2003)

ประวัติทีมชาติ

อาร์เจนติน่า อีกหนึ่งยอดทีมจากอเมริกาใต้ ที่จัดได้ว่าเป็นทีมระดับโลก โดยมีอดีตนักเตะระดับตำนานของโลก อย่าง ดีเอโก้ อาร์มันโด้ มาราโดน่า เป็นหน้าเป็นตาในระดับที่สามารถเทียบชั้นได้กับ เปเล่ ของ บราซิล

อย่างไรก็ตามผลงานของ อาร์เจนตินา ในช่วงหลังๆ ยังถือว่าด้อยกว่าคู่ปรับตลอดกาลอย่าง บราซิล อยู่พอสมควร โดยในช่วงแรกๆของการแข่งขันฟุตบอลโลก 2006 รอบคัดเลือก โซนอเมริกาใต้ ปรากฏว่าทีม "ฟ้า-ขาว" มีปัญหาอยู่หลายอย่าง จนกระทั่ง มาร์เซโล่ บิเอลซ่า กุนซือคนก่อน อดรนทนไม่ไหว ลาออกจากตำแหน่งไป แบบไม่มีใครคาดคิด ทำให้ทาง สหพันธ์ฟุตบอลอาร์เจนตินา ต้องแต่งตั้ง โฮเซ่ เปเกร์มัน เข้ามารับตำแหน่งกุนซือทีม "ฟ้า-ขาว" โดยมีภารกิจสำคัญคือพา อาร์เจนตินา กลับมาทวงความยิ่งใหญ่ในวงการลูกหนังโลก

เปเกร์มัน พาทีม อาร์เจนตินา ตีตั๋วมาเล่นฟุตบอลโลก 2006 ที่เยอรมัน ได้เป็นทีมแรกของโซนอเมริกาใต้ ด้วยการเอาชนะ บราซิล 3-1 ท่ามกลางแฟนบอลมหาศาลของตนเองที่กรุงบัวโนสไอเรส แต่ภารกิจของเขามันไม่ได้ส้นสุดลงแค่นั้น เขายังต้องพาอาร์เจนตินา ทำผลงานให้ดีที่สุดในการลงโชว์ฝีเท้าที่เยอรมัน

อาร์เจนตินา ทำได้ 34 คะแนน ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2006 รอบคัดเลือก โซนอเมริกาใต้ โดยมีคะแนนน้อยกว่าในรอบคัดเลือกครั้งก่อน (ฟุตบอลโลก 2002) 9 คะแนน และจบการแข่งขันด้วยการเป็นอันดับ 2 ของโซนนี้ ซึ่งมี บราซิล เป็นอันดับ 1 และนี่เป็นครั้งแรกที่ อาร์เจนตินา ไม่ได้จบรอบคัดเลือกด้วยการเป็นแชมป์ของโซนอเมริกาใต้ นับตั้งแต่รอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 1994 ที่ สหรัฐอเมริกา เป็นเจ้าภาพรอบสุดท้าย

ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2006 รอบคัดเลือก โซนอเมริกาใต้ อาร์เจนตินา มีสถิติ ลงแข่ง 18 นัด ชนะ 10 นัด เสมอ 4 และ แพ้ 4 นัด ทำได้ 29 ประตู เสียไป 17 ประตู เป็นรอง บราซิล ด้วยลูกได้/เสีย เท่านั้น นอกจากนั้น อาร์เจนตินา ยังรักษาสถิติไม่แพ้ใครในบ้านของตนเองซึ่งยาวนานมาถึง 12 ปี เอาไว้ได้ และบุกไปเอาชนะ โบลิเวีย ที่ ลา ปาซ ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 32 ปี แถมยังตีตั๋วไปเยอรมัน ได้แบบสะใจด้วยการเอาชนะคู่ปรับตัวฉกาจ อย่าง บราซิล

อย่างไรก็ตาม อาร์เจนตินา ต้องพ่ายแพ้ให้กับ ปารากวัย เป็นครั้งแรกในการแข่งขันฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก นอกจากนั้นยังต้องพบกับความพ่ายแพ้ให้กับประเทศเพื่อนบ้านอย่าง อุรุกวัย เป็นครั้งแรกในรอบ 16 ปี อีกด้วย

หน้าประวัติศาสตร์บันทึกเอาไว้ว่า ในฟุตบอลโลก ปี 1990 ที่ อิตาลี เป็นเจ้าภาพ อาร์เจนตินา เคยมีโอกาสคว้าแชมป์โลก 3 สมัย เท่ากับ บราซิล คู่ปรับตัวฉกาจ ซึ่งในเวลานั้นก็ยังมีสถิติคว้าแชมป์โลกมาครองได้ 3 สมัย และถ้าพวกเขาทำได้ มาราโดน่า ก็จะยิ่งมีรัศมีความยิ่งใหญ่เทียบเท่ากับ เปเล่ ยิ่งกว่านี้อีก แต่น่าเสียดายที่ อาร์เจนตินา ไม่ไม่ถึงฝั่งฝัน เมื่อพลาดท่าพ่าย เยอรมันตะวันตก ในรอบชิงชนะเลิศ 0-1 โดย ทีม "อินทรีเหล็ก" ยุคนั้นมี ฟรานซ์ เบ็คเค่นเบาเออร์ เป็นกุนซือ และมีทหารเอก อย่าง โลธ่าร์ มัทเธอุส เป็นตัวชูโรง

อีก 4 ปี ต่อมา มาราโดน่า นำทัพนักเตะ "ฟ้า-ขาว" มาแก้ตัวอีกครั้งในฟุตบอลโลก 1994 ในดินแดนแห่งเสรีภาพที่ชื่อว่า อเมริกา ท่ามกลางความสนใจจากผู้คนทั่งพิ้นพิภพโลกา แต่แล้ว มาราโดน่า ก็โดนขับออกจากการแข่งขัน เมื่อไม่ผ่านการตรวจสารกระตุ้นในร่างกาย และนั่นก็คือโอกาสสุดท้ายของ มาราโดน่า กับฟุตบอลโลก หลังจากที่พี่เบิ้มในทีมอย่าง "เสือเตี้ย" จบเห่ไปแล้ว หลังจากนั้นทีม "ฟ้า-ขาว" ที่มี อัลฟิโอ บาซิเล่ เป็นกุนซือ ก็จบเห่ตามไปด้วย

ฟุตบอลโลก ครั้งต่อมาที่ ฝรั่งเศส ในปี 1998 อาร์เจนตินา กลับมาสร้างสีสันอีกครั้ง โดยเฉพาะในนัดที่พวกเขาเอาชนะพลพรรค "สิงโตคำราม" อังกฤษ ไปได้ ด้วยการดวลจุดโทษ ในรอบที่สอง โดยที่ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่
ยั่วประสาท เดวิด เบ็คแฮม จนตบะแตกโดนใบแดงไปอีกด้วย แต่ทีม "ฟ้า-ขาว" ก็มาตกม้าตาย ด้วยน้ำมือของ ฮอลแลนด์ ในรอบก่อนรองชนะเลิศ ด้วยประตูสุดคลาสสิคของ เดนนิส เบิร์กแคมป์

อาร์เจนตินา มาพบกับความผิดหวังแบบสุดๆ ในฟุตบอลโลก 2002 ที่ เกาหลีใต้ และ ญี่ปุ่น เมื่อกระเด็นตกรอบแรกไปแบบแฟนบอลช็อกตาตั้ง โดยทีม "ฟ้า-ขาว" ชุดนั้น มี มาร์เซโล่ บิเอลซ่า เป็นกุนซือ แต่แม้ว่าจะพาทีมชาติอาร์เจนตินา ตกรอบแรกฟุตบอลโลก 2002 แต่ ผู้หลักผู้ใหญ่ในสหพันธ์ฟุตบอลอาร์เจนตินา ก็ยังไว้ใจให้ บิเอลซ่า ทำทีมต่อไป และ บิเอลซ่า ก็แก้ตัวได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการพาทีม "ฟ้า-ขาว" เป็นรองแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอเมริกาใต้ หรือ โคปา อเมริกา ปี 2004 และพาทีมคว้าเหรียญทองกีฬาโอลิมปิก 2004 มาครองได้ ซึ่งนับการคว้าเหรียญทองในกีฬาโอลิมปิก ได้เป็นครั้งแรก สำหรับทีมลูกหนังของอาร์เจนตินา

อย่างไรก็ตาม ในท้ายที่สุด บิเอลซ่า ก็ลาออกจากตำแหน่งไปซะงั้น ทำให้ เปเกร์มัน ได้รับโอกาสมาคุมทีมบ้าง แม้ว่า เปเกร์มัน จะไม่ได้มีชื่อเสียงมาจากการเป็นนักฟุตบอลอาชีพมาก่อน แต่เขาก็เอาชนะใจสหพันธ์ฟุตบอลอาร์เจนตินา ด้วยผลงานการคุมทีมระดับเยาวชนมาก่อน โดย เปเกร์มัน เคยพาทีมเยาวชนของ อาร์เจนตินา คว้าแชมป์ฟุตบอลเยาวชนชิงแชมป์โลก มาแล้วถึง 3 ครั้ง และปลุกปั้นนักเตะเยาวชนขึ้นมาโด่งดังเป็นกำลังสำคัญให้กับทีมชุดใหญ่ไปมากมายหลายคน

แม้ว่าทีมชาติอาร์เจนตินาชุดนี้ จะไม่มีจอมทัพระดับตำนานอย่าง มาราโดน่า หรือว่าไม่มีนักเตะที่โดดเด่นเป็นสง่ามากมายอะไรนัก อย่างที่เราเคยพบเห็นในยุคก่อนนี้ เพราะแม้แต่นักเตะจอมทัพของทีมอย่าง ฮวน
โรมัน ริเกลเม่ ก็ยังอยู่แค่ทีมสโมสรธรรมดาๆอย่างบียาร์รีล หรือกองหน้าตัวความหวังอย่าง เฮอร์นัน เครสโป ก็เป็นแค่ตัวสำรองที่ เชลซี แต่นี่อาจจะกลายเป็นเรื่องดีที่จะทำให้ทีม "ฟ้า-ขาว" ชุดนี้ เล่นกันเป็นทีมเวิร์คมากขึ้นอย่างที่เราๆท่านๆ ไม่เคยเห็นมาก่อน และถ้าทีมใดกล้าบังอาจจะประมาท ทีม "ฟ้า-ขาว" รับรองว่ามันผู้นั้นมีสิทธิ์น้ำตกตกแน่นอนครับท่าน













1 ความคิดเห็น: